Pure Growth Asia offers 2 structured programs for Thai Language speakers. They can be customized for corporate delivery for up to 25 participants and they are also available as public courses. For more information, please contact our office at  info@puregrowth.asia

Our Master Coach, Tony Rattarangsi, designed these programs based on research and personal experience as a leader in various sectors including the private sector, military and diplomatic corps.

ภาวะผู้นํา ๔.๐

Leadership

Leadership

แนวคิด (Course Concepts)

เรานั้นอยู่ในศตวรรษที่ ๒๑ อยู่ในยุคข้อมูลข่าวสาร อยู่ในยุคไทยแลนด์ ๔.๐ แม้เราจะห้อมล้อมด้วยอุปกรณ์ไฮเทคในชีวิตประจำวันมากมายก็ตาม แต่จริงแล้ว มุมมอง วิธีคิด วิธีทำ ของเรานั้นทันยุคทันสมัยหรือไม่ หรือยังติดอยู่กับกับดักของความคุ้นเคย 30 ปีที่ผ่านมานับแต่ที่เราเปลี่ยนเข้ายุคข้อมูลข่าวสาร เศรษฐกิจของประเทศกลับติดอยู่กับรายได้ปานกลาง ไม่ว่าเราจะคิดว่าเป็นเพราะสาเหตุอะไร ในส่วนของเราถึงเวลาแล้วที่เราควรจะช่วยกันก้าวข้ามจุดนี้ออกไปเสียที

การบริหารที่มีประสิทธิภาพ ภาวะผู้นำที่มีประสิทธิผล ที่เป็นที่ยอมรับในอดีต ยังจะมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลอยู่หรือไม่ในวันนี้ หากเราไม่ท้าทายความคุ้นเคยของเราเอง เราก็ไม่รู้ ติดอยู่ในยุคที่การเปลี่ยนแปลงเป็นไปอย่างนิ่งๆ ช้าๆ ซึ่งวันนี้มันไม่ได้เป็นเช่นนั้น

โลกเราเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทั้งเร็วขึ้นเร็วขึ้นโดยไม่มีทีท่าว่าจะช้าลง องค์กรที่ประสบสำเร็จ จาเป็นต้องมีผู้นำในทุกระดับที่เข้าใจถึงลักษณะการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมที่เผชิญอยู่ รู้ต้นสายปลายเหตุ จะต้องเปิดรับการเปลี่ยนแปลง ไม่เพิกเฉยต่อความไม่แน่นอน รู้จักเปลี่ยนตัวเอง ไม่ใช่แค่ตามการเปลี่ยนแต่ต้องอยู่ในกระแสของการเปลี่ยนแปลงนั้น

ถ้าจะคุ้นเคยกับอะไร ก็ต้องคุ้นเคยกับความไม่เที่ยง ความเปลี่ยนแปลงนี่แหละ และจะต้องเป็นผู้นำที่สามารถนำการเปลี่ยนแปลงได้ จะต้องเป็นผู้นำที่สามารถดึงเอาความคิดสร้างสรรค์ของกลุ่มเพื่อให้ได้มาซึ่งนวัตกรรมอันเป็นกุญแจแห่งความสำเร็จในสภาพแวดล้อมเช่นนี้ได้ และจะต้องเป็นผู้นำต้องที่สามารถพัฒนาทุนมนุษย์ ไม่มองบุคลากรเป็นทรัพยากรที่ใช้แล้วหมดไป แต่ต้องมองเป็นสินทรัพย์ที่ต้องต่อทุนอันเป็น

ปัจจัยที่จะได้มาซึ่งความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรม ทั้งเป็นการสร้างผู้นำในอนาคตที่มีความพร้อมสำคัญยิ่ง ผู้นำที่นำความสำเร็จมาสู่องค์กรได้ จะต้องมีความเป็นตัวของตัวเอง ไม่ไปลอกเลียนแบบใคร แต่จะต้องรู้จักตัวเองอย่างแท้จริงเสียก่อน ทั้งเป็นผู้ที่พร้อมที่จะค้นพบศักยภาพความเป็นผู้นำของตนที่ซ้อนเร้นอยู่ออกมาใช้ แสวงหาเวอร์ชั่นความเป็นตัวของตัวเองที่พร้อมกว่า ดีกว่า ทั้งความเชี่ยวชาญ มุมมอง ความคิด อารมณ์และทัศนคติ เป็นผู้ที่รู้จักถูกผิด สามารถเชื่อมโยงค่านิยมขององค์กรกับค่านิยมประจำใจของตนได้ ทั้งรู้จักถ่ายทอดถึงผู้ใต้บังคับบัญชา ให้นำไปใช้ชี้แนะการตัดสินใจ การแก้ปัญหาและพฤติกรรมของพวกเขาอีกที

หลักสูตรนี้เป็นหลักสูตรพื้นฐาน แต่จำเป็นและสำคัญยิ่งต่อความสำเร็จ ของผู้นำองค์กรในทุกระดับ ไม่ว่าจะเป็นองค์กรธุรกิจหรือของรัฐ เสริมทักษะ เพิ่มความพร้อมในการเป็นผู้นำนวัตกรรมและการเปลี่ยนแปลง ด้วยมุมมองที่ง่ายต่อความเข้าใจ ดึงเอาประสบการณ์จริงมาเรียนรู้ และหวังผลเชิงปฏิบัติอย่างก้าวกระโดด ให้เป็นรากฐานที่ท่านสามารถไปดัดแปลง ต่อยอดความเป็นผู้นำของท่านต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง

หลักการและหัวข้อการสัมมนาโดยสังเขป (Principles and Scope)

ผู้นำและภาวะผู้นำในความหมายของท่านการเปลี่ยนแปลง,นวัตกรรมและการพัฒนาทุนมนุษย์สมรรถนะและลักษณะของผู้นำ ๔.๐ และตัวท่าน

ผู้นำที่เป็นตัวของตัวเองและค่านิยมประจำใจ – ค่านิยมองค์กร

(Authentic Leadership – Values Baseed Leadership)

สไตล์ผู้นำของท่านความสุขกับความหมายในการทำงาน

พัฒนางาน พัฒนาคน (Performance Improvement)

การฟังเชิงรุก (Active Listening) -การใช้คำถาม (Powerful Questioning)-โค้ชชิ่ง (Manager as Coach)

ระบบและความสัมพันธ์,ความเห็นต่าง,ความขัดแย้ง และการสื่อสาร

บริหารเวลา(Managing Time) และพลังงาน (Managing Energy)

นำตัวและนำทีมผ่านการเปลี่ยนแปลง (Going Through Chane and Leading the Change)

Workshop ต่างๆ ในหลักสูตรอบรมสัมมนาเชิงปฏิบัตินี้ เข้าถึงทฤษฎีและแนวทางปฏิบัติต่างๆ และพฤติกรรมศาสตร์ที่เป็นที่ยอมรับ โดยใช้ความรู้ประสบการณ์ของผู้เข้าร่วมสัมมนานำทาง โดยการสะท้อนคิด ท้าทายความคุ้นเคย พฤติกรรม ทัศนคติและความคิด ในมุมมองต่างๆ ให้เกิดการเรียนรู้ แตกฉาน มั่นใจ ทั้งสามารถเชื่อมโยงกันเป็นภาพรวมได้ ไม่รับทฤษฎีและแนวทางปฏิบัติใดๆเป็นชิ้นๆ ปะติดปะต่อกันไม่ได้หรือรู้สึกว่าเป็นเพียงแค่ทฤษฎีแล้วไม่สามารถนำไปใช้ในชีวิตการทำงานจริงได้

ตามที่หลักการและหัวข้อการสัมมนาที่นำเสนอไปแล้วโดยสังเขปนั้น จะเห็นได้ว่า การจัดกลุ่ม workshopนั้น จัดตามประสบการณ์ ไม่ใช่ตามวิชาการ แต่ใช้ทฤษฎีและแนวทางปฏิบัติต่างๆ ผสมผสานนั้นเป็น Platform ของการทำ Workshop

คุณลักษณะของหลักสูตร (Course Characteristics) :สัมมนาเชิงปฏิบัติการ (Workshops) โดยใช้ประสบการณ์จริงของผู้เข้าร่วมมาใช้เป็นกรณีศึกษา โดยวิทยากรกระตุ้นให้เกิดการพัฒนาความเป็นผู้นำของผู้เข้าร่วมสัมมนา  จากการวิเคราะห์สะท้อนความคิดให้เกิดความเข้าใจ หยั่งรู้ ตระหนักรู้ ค้นพบ ด้วยตัวเองและนำไปสู่ปฏิบัติอย่างหวังผล และการพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง

ผู้ที่เหมาะเข้าร่วมการสัมมนา(Who should attend)  :  ผู้นำระดับกลาง/ล่าง และ HR

ระยะเวลาการสัมมนา :  2 วัน +1 วัน (Optional)

ค่าใช้จ่ายในการอบรม :

                                                     ( 20 คน)                 (10 คน)

ค่าวิทยากร    สัมมนา 2 วัน        90,000 บาท         70,000 บาท

                       สัมมนา 3 วัน      120,000 บาท         96,000 บาท

ค่าอาหารและสถานที่ ประมาณ 1,000 บาท/คน/วัน

ยกระดับฐานความสุข

Raising your Happiness Set-Point

ในชีวิตนี้ท่านต้องการอะไรมากที่สุด ถ้าตอบไม่ถูกขอถามใหม่ ถ้าท่านมีลูกหลาน ท่านต้องการอะไรให้เกิดในชีวิตของเขา ไม่ว่าท่านต้องการให้เขาโตขึ้นเป็นอะไร สุดท้ายสิ่งที่ท่านต้องการให้เขามีในชีวิตของเขา ก็ไม่พ้น “ความสุข” เราเองก็เช่นกัน

ห้องแลปความสุขครั้งนี้ ขอนำเสนอการยกระดับฐานความสุข (Happiness Set-Point)บางทีเราคิด ถ้าได้สิ่งนี้อันเป็นสิ่งที่ปรารถนาเหลือเกิน คงจะสุขไปตลอดชาติ พอได้จริงก็สุขจริง กราฟความสุขมันพุ่ง แต่มันก็ไม่ตลอดชาติ เวลาผ่านไป มันก็กลับลงมาที่ฐานความสุขของเรา แล้วบางทีเราคิดว่าถ้าสิ่งนี้เกิดขึ้น ชีวิตจะต้องพังทลาย มันก็ไม่จริงอีก เวลาผ่านไป เราก็กลับขึ้นมาที่ฐานความสุขของเราอีก แต่ฐานความสุขของเราแต่ละคนมันไม่เท่ากัน ถ้าฐานความสุขต่ำ ก็เหมือนบ้านต่าน้าก็ท่วม อารมณ์มันจมๆ มันออกลบๆ ขมุกขมัวอยู่ตลอด ดูเป็นคนอมทุกข์ สุขยากทุกข์ง่าย แต่บางคนฐานความสุขสูงเหนือระดับน้ำ ดูเป็นคนอารมณ์ดี สุขง่าย ทุกข์แป๊บเดียว ไม่ว่าฐานความสุขของท่านจะอยู่ตรงไหน มันยกระดับกันได้ สุขขึ้นได้ สุขอยู่แล้วก็สุขขึ้นอีก เอาสุขสู้ชีวิตชีวิตจะเปลี่ยนแน่นอน มันขึ้นอยู่กับตัวเราเอง

แล้วจะทําอย่างไร

ท่านคิดว่า workshopนี้ จะทำให้ชีวิตท่านมีความสุขขึ้นได้ไหม ปลดปล่อยหรือทุเลาความหนักอึ้งในอารมณ์ได้ไหม แล้วไปเบ่งบานกับสิ่งดีๆที่มีในชีวิต เมื่อท่านสุข โลกก็สดใสตาม ทั้งๆ ที่มันก็โลกใบเดิม ท่านก็ต้องมาลองด้วยตัวเอง ในห้องแลปความสุขนี้

อะไรจะเกิดขึ้นในห้องแลปความสุขในครั้งนี้

อะไรที่ทำให้เราเป็นเราในวันนี้ เป็นคนอย่างเราที่ไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือน ก็ประสบการณ์ตรงและอ้อมขึ้นๆ ลงๆ ที่ผ่านเข้ามาในชีวิตของเรานั่นเอง เราก็จำทั้งเหตุการณ์และอารมณ์ ชอบ ไม่ชอบ รัก เกลียด กลัวสารพัดอารมณ์ สมองเราก็เรียนรู้จากมันเพื่อเอาไปใช้ต่อไป แต่ลบมันชอบดังกว่าบวก บางทีก็คิดมาก กลุ้มกังวลจนอึดอัด มีปฏิกิริยาโต้ตอบเวอร์เกินพอดี จนกลบสุขที่มี เมื่อสมองเรียนรู้ได้ ก็เรียนรู้ใหม่ให้สุขได้ เราก็จะมาช่วยกันยกระดับฐานความสุขมันขึ้นมาในห้องแลปนี้ ซึ่งได้เลือกเฟ้นเอาปัจจัยความสุข เครื่องมือหาสุข มาคุย มาทดลองกัน แล้วพกพาไปใช้ต่อจนเป็นนิสัยสุขๆ :

•ลืม-ปล่อยวาง

•ขอโทษ

•ว่าด้วยการบ่น

•กังวลเป็น

•กำหนดลมหายใจ

•ผ่อนคลายด้วยมโนภาพ

•จิต <–สื่อ–>กาย

•ยิ้ม-หัวเราะ

•โค้ชตัวเองสู่ความสุข

•ชีวิตที่สมดุล

•บริหารพลังงาน

•มาตรวัดความสุข

•ปราชญ์ความสุข

 

 

 

เมื่อการทดลองในวันนี้สิ้นสุดลง ท่านจะพกศิลปะในการยกระดับฐานความสุขของท่านติดตัวไปมายมายหลายเทคนิค

ผู้ที่เหมาะเข้าร่วมการสัมมนา(Who should attend): ทุกท่านที่อยากสุข

ระยะเวลาในการใช้ห้องแลป:  1 วัน

ค่าใช้จ่ายในการร่วมสัมมนา :  3,500 บาท ต่อคน

ค่าอาหารและสถานที่ประมาณ 1,000 บาท/คน/ วัน

Your facilitator:

วิทยากร

รศ.ดร.นาวาเอก อโณทัย รัตตะรังสี

Certified Master Coach

Behavior Coaching Institute